วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คำศัพท์บทที่ 3


1.Scareware: Scareware เป็นโปรแกรมที่หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดหรือซื้อมัน โดยให้ผู้ใช้คิดว่ามันจะช่วยซ่อมคอม ซึ่งจริงๆแล้วมันเองแหละที่เป็นตัวปัญหา  Scareware มักจะทำการสแกนหลอกๆ แล้วก็แสดงรายชื่อ malware โดยที่ แน่นอน ไม่มีตัวมันเอง แล้วมันก็จะบอกว่าวิธีการ แก้ไขปัญหาเหล่านี้คือต้องซื้อโปรแกรมตัวเต็มของมัน ตัวอย่างของ scareware มี: System Security, Anti-Virus 2010, และ Registry Cleaner XP

2.Sidejacking: Sidejacking เป็นเทคนิคการแฮกแบบหนึ่ง โดยที่มันจะขโมย session ของคุณ  โดยทั่วไปเวบไซท์จะเข้ารหัสรหัสของคุณ มันจะได้ไม่มีใครขโมยได้ แต่แล้วมันก็จะส่ง “session-id” ที่ไม่ได้เข้ารหัสไว้   session-id นี้อาจจะเป็นข้อมูลที่อยู่ใน URL หรือโดยปกติิ จะเป็นข้อมูลที่อยู่ใน HTTP cookie แฮคเกอร์ที่มี session-id นั้น จะสามารถปลอมตัวแล้วเข้าใช้แอคเคาท์นั้นๆได้ เหมือนกับว่าเขาล็อกอินเอง ทำให้เขาสามารถอ่านอีเมลของคุณ ดูว่าคุณเคยซื้ออะไร หรือใช้แอคเคาท์ social network ต่างๆของคุณ ฯลฯ  Robert Graham ผู้ซึ่งเป็นผู้รวบรวมจุดโหว่และแจกจ่ายเป็นผู้คิดคำนี้

3.Worm: มาจากศูนย์วิจัย Xerox Palo Alto 1979   “Computer Worm” จริงๆแล้วถูกสร้างมาเพื่อทำให้คอมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็กลายมาเป็นโปรแกรมที่อาจสร้างความเสียหายได้  บ่อยครั้งมันจะทำให้ไฟล์ในคอมเสียหรือทำให้คอมช้าจนแทบใช้งานไม่ได้

4.White Hat: “White Hat” เป็นแฮคเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการหาจุดโหว่ แต่เมื่อพบช่องโหว่นี้ แทนที่จะฉวยโอกาส พวกเขาจะบอกช่องโหว่นี้ แล้วทำการซ่อมแซม  ปิดมันเพื่อไม่ให้มีการโจมตีเกิดขึ้นได้ คำนี้มาจากหนังฝรั่งเก่าๆ ที่พระเอกมักใส่หมวกคาวบอยสีขาว และตัวร้ายจะใส่สีดำ

25.Black Hat: “Black Hat” เป็นแฮคเกอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาติ และปกติข้อมูลเหล่านั้นจะเป็นข้อมูลที่เป็นความลับ  พวกเขาอาจจะใช้คอมโจมตีระบบเพื่อเงิน ความสนุก หรือการเคลื่อนไหวทางการเมือง การโจมตีมักจะเป็นการแก้ไขและ/หรือทำลายข้อมูล โดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ และอาจแพร่ไวรัส worm และสแปม

6.Sidejacking: Sidejacking เป็นเทคนิคการแฮกแบบหนึ่ง โดยที่มันจะขโมย session ของคุณ  โดยทั่วไปเวบไซท์จะเข้ารหัสรหัสของคุณ มันจะได้ไม่มีใครขโมยได้ แต่แล้วมันก็จะส่ง “session-id” ที่ไม่ได้เข้ารหัสไว้   session-id นี้อาจจะเป็นข้อมูลที่อยู่ใน URL หรือโดยปกติิ จะเป็นข้อมูลที่อยู่ใน HTTP cookie แฮคเกอร์ที่มี session-id นั้น จะสามารถปลอมตัวแล้วเข้าใช้แอคเคาท์นั้นๆได้ เหมือนกับว่าเขาล็อกอินเอง ทำให้เขาสามารถอ่านอีเมลของคุณ ดูว่าคุณเคยซื้ออะไร หรือใช้แอคเคาท์ social network ต่างๆของคุณ ฯลฯ  Robert Graham ผู้ซึ่งเป็นผู้รวบรวมจุดโหว่และแจกจ่ายเป็นผู้คิดคำนี้

7.Trojan Horse: โปรแกรมยอดนิยมที่มีในคอม ซึ่งมันจะแฝงตัวเป็นโปรแกรมที่ไม่มีอันตราย  Trojans อาจไม่สามารถสร้างตัวเองใหม่ได้ แต่มันก็ยังอันตรายมาก  บ่อยครั้ง Trojan จะเปิดประตูหลังไว้บนคอม ทำให้คอมเป็นอันตรายต่อการติดภัยอื่นๆ และให้แฮคเกอร์สามารถควบคุมคอมคุณได้ ต้นกำเนิดจาก Dan Edwards

8.Social Engineering: ทำให้เป็นที่รู้จักโดย Kevin Mitnick แฮคเกอร์ในตำนาน  Social Engineering เป็นการเอาข้อมูลจากเหยื่อ โดยให้เหยื่อเป็นผู้ให้เอง  ข้อมูลนี้ก็จะถูกเอามาใช้เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์  ตัวอย่างพนึ่งก็คือ เช่น พนักงานของบริษัทๆคนหนึ่งถูกหลอกให้บอกข้อมูลเกี่ยวกับเขา ข้อมูลนี้ก็จะถูกใช้เพื่อเอาข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัท

9.Keylogging: ถูกสร้างโดย Perry Kivolowitz สำหรับผู้ใช้ Usenet ในปี 1983  Keylogging เริ่มถูกใช้อย่างแพร่หลาย  มันคือการบันทึกปุ่มที่ถูกกดบนคีย์บอร์ด  และบางครั้งถูกใช้เพื่อการเฝ้าดูเด็กเล็กๆเวลาใช้อินเตอร์เน็ต

10.Script Kiddies: คำคิดโดย Marcus Ranum เพื่ออธิบายพวก white hats ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ script kiddy ถูกใช้โดยแฮคเกอร์ที่มีประสบการณ์เพื่อเรียกแฮคเกอร์เด็กๆหรือที่ประสบการณ์ น้อย ที่อาจสร้างความรำคาญหรืออันตายได้  การใช้เทคนิคเด็กๆ โปรแกรมที่มีอยู่แล้ว หรือมีผู้ช่วย ในการเจาะช่องโหว่ของระบบ  จุดแตกต่างที่สำคัญก็คือ แฮคเกอร์พวกนี้มักไม่รู้ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น